หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ปัญหาวัยรุ่นในยุคเทคโนโลยี

###ปัญหาวัยรุ่นในยุค เทคโนโลยี
          ปัจจุบันสังคมไทยประสบปัญหาต่างๆมากมาย ตามความเจริญของยุคสมัย ซึ่งแตกต่างกับสมัยก่อนมาก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจ  ปัญหาสังคม  ปัญหาการเมือง   การศึกษาไม่เสมอภาคระหว่างสังคมเมืองกับสังคมต่างจังหวัด   ปัญหาวัยรุ่นในสถานศึกษา  แต่ถ้าจะว่าไปแล้วสังคมเราก็ใช่ว่าจะเลวร้ายไปทุกเรื่อง ยังมีสิ่งที่เรียกว่า  การพัฒนาที่ดี  ของสังคมเกิดขึ้นเสมอ ๆตามยุคสมัยของความเจริญ เช่น ความสะดวกสบายและเจริญก้าวหน้าในด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี สารสนเทศ ที่ทำให้ประเทศไทยเกิดนวัตกรรมที่ทันสมัย มากกว่าสมัยก่อนมาก เช่นติดต่อสื่อสาร  การคมนาคมขนส่ง  ระบบการจัดเก็บข้อมูลที่ทันสมัย สะดวกรวดเร็ว เป็นต้น
          แต่ปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกับความเจริญ ด้านเทคโนโลยี  หรือ ยุคดิจิตอล ที่พบเห็นกันบ่อยๆในสังคมคือ ปัญหาวัยรุ่น  ซึ่งส่วนใหญ่ ยังไม่ตระหนัก  ขาดการยับยั้งการใช้เทคโนโลยีอย่างถูกต้อง  ถึงแม้เทคโนโลยีจะมีประโยชน์มาก แต่ก็ก่อให้เกิดปัญหาตามมาเช่นกัน    ความเจริญด้าน  เทคโนโลยีมีบทบาทกับวัยรุ่นมากกว่าพ่อแม่ เมื่อเปรียบเทียบกับสมัยก่อน  ที่ส่วนใหญ่ พ่อแม่  จะมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับลูก ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีจะไม่เจริญเท่าใดนัก ยกตัวอย่างง่ายๆ เมื่อก่อนไปเรียนที่กรุงเทพ ก็จะเขียนจดหมายหาพ่อแม่  เพราะไม่มีโทรศัพท์มือถือ พ่อแม่ก็เขียนจดหมายตอบกลับมา กว่าจะถึงก็ใช้เวลาหลายวัน เพราะไม่มีโทรศัพท์มือถือ
          แต่ในปัจจุบันแค่โทรศัพท์หากันก็รู้เรื่องแล้ว ในยุคโลกาภิวัฒน์นี้ พ่อแม่มักไม่มีเวลาให้ลูกเพราะต้องทำงานหาเงิน ถ้าเป็นพ่อแม่ที่อยู่ตามต่างจังหวัดแล้ว ก็ต้องปล่อยให้ลูกอยู่กับปู่ย่าตายาย ซึ่งปู่ย่าตายาย ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยเข้าถึงเทคโนโลยี มากนัก  วัยรุ่นส่วนใหญ่จึงได้รับอิทธิพลจาก สื่อ  จากโททัศน์ หมกมุ่นอยู่กับโทรศัพท์มือถือ รุ่นใหม่ๆ ที่พ่อแม่ ซื้อให้ เพราะต้องตามใจลูก ตามยุคสมัยที่ลูกเรียกร้อง
          วัยรุ่นเป็นวัยเป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ในด้านร่างกาย  จิตใจ และอารมณ์  การเปลี่ยนแปลงทางเพศ  และที่สำคัญการรับรู้รู้ข่าวสารข้อมูล ย่อมมีความเร็วและง่ายกว่าวัยอื่น เพราะเป็นวัยที่อยากรู้อยากเห็น และชอบเลียนแบบ  ถ้าขาดการชี้แนะที่ถูกต้องในด้านใดด้านหนึ่งแล้วย่อมก่อให้เกิดปัญหาตามมาได้  โดยเฉพาะในยุคเทคโนโลยี เข้ามามีบทบาทในสังคมนี้ รู้สึกว่าวัยรุ่นจะเป็นเป้าหมายหลักของ สื่อเทคโนโลยีต่างๆ  เช่น สื่อโฆษณาที่ทันสมัยที่เน้นบริโภคนิยม  ในยุคทุนนิยม   อุปกรณ์การสื่อสารที่ทันสมัย มีระบบการใช้งานที่สลับซับซ้อนและเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นในสถานศึกษา   ระบบการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วในคอมพิวเตอร์ที่ขาดการควบคมและสอดส่องดูแลจากพ่อแม่  หรือครู   หรือ พ่อแม่   และครูตามเทคโนโลยีไม่ทันเท่ากับลูกจึงไม่รู้ว่าตอนนี้วัยรุ่นกำลังทำอะไรอยู่  คุยกับใครอยู่เป็นเวลานานๆ  หรือ  นั่งเฝ้าหน้าจอคอมพิวเตอร์ทุกๆวันโดยไม่คุยกับใคร
          ปัญหาวัยรุ่นในสถานศึกษาที่พบบ่อยๆคือ วัยรุ่นส่วนใหญ่จะมีอุปกรณ์สื่อสารที่ทันสมัย ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ไม่ใช่เรื่องแปลกในยุคนี้  เพราะจำเป็นและมีประโยชน์สำหรับการติดต่อสื่อสาร   แต่ปัญหาคือ วัยรุ่นมีค่านิยมที่ไม่ถูกต้อง มีพฤติกรรมชอบเลียนแบบเพื่อนในห้องในการมีโทรศัพท์ราคาแพงๆ และไม่จำเป็น  โทรศัพท์ในห้องเรียน  พ่อแม่ต้อง ตามใจลูก  เพราะกลัวลูกจะไม่มาโรงเรียน หรือไม่มีอย่างลูกคนอื่น จึงเกิดค่านิยมที่ผิดๆขึ้นมาในยุคดิจิตอลนี้  นี่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจริงๆ ในสังคมต่างๆจังหวัดที่ ครูได้ประสบพบเจออยู่ทุกครั้ง  พ่อแม่ไม่มี เทคนิควิธีการในการหาเหตุผลมาอธิบาย ถึงคุณค่าแท้ และ  คุณค่าเทียม  ของเทคโนโลยี หรือ สังคมปัจจุบันนี้ป้อน ข้อมูลให้อย่างเดียว  แต่ไม่มีวิธีการ ชำระล้างสารพิษอันเป็นผลมาจากเทคโนโลยีเลย
          วัยรุ่นส่วนมาก  ติดเกมส์  โดยเฉพาะในเมือง และต่างจังหวัดที่ ร้านอินเตอร์เน็ต  สามารถเปิดได้ถึงเที่ยงคืน ภาวะติดเกมส์ของวัยรุ่นส่วนใหญ่ที่สังเกตเห็น คือ มาจากครอบครัวฐานะปานกลาง ถึง ดีมาก หรือแม้กระทั่งเด็กที่ไม่มีเงินก็ต้องร้องให้ขอเงินพ่อแม่ หรือ ขโมยเงินพ่อแม่ไปเล่นเกมส์  หรือเด็กที่มีฐานะขึ้นมา ก็จะมีคอมพิวเตอร์ในบ้านก็จะเล่นเกมส์ ดึกดื่นเที่ยงคืนโดยไม่หลับไม่นอน ไม่มีปฎิสัมพันธ์กับพ่อแม่ เมื่อเทียบกับสมัยก่อน  เกิดภาวะ  ไม่พูดจากับใคร เพราะ  ติดเกมส์   ความเป็นจริงแล้ว  เกมส์บางอย่างก็เป็นสิ่งที่ดี ฝึกสมองและช่วยเสริมการเรียนรู้ แต่ ส่วนใหญ่แล้ว เกมส์ของวัยรุ่นที่เล่นอยู่เท่าที่สังเกตเห็นจาก จะเป็นเกมส์ ที่เน้นการแข่งขันอย่างเอาเป็นเอาตาย  เน้นความก้าวร้าว การต่อสู้ที่รุนแรง ถ้าเป็นอย่างนี้แล้ว  จิตใจ ของวัยรุ่นนั้น จะรับข้อมูลแบบใด เมื่อมาโรงเรียนความก้าวร้าวที่สะสมมาจากสื่อประเภทนี้ ก็จะแสดงออกมา เป็นความก้าวร้าวต่อเพื่อนๆ  ต่อครู หรือ  ต่อ พ่อแม่  อยากจะบอกว่าจิตสำนึกของคนที่ผลิต โปรแกรม  ที่เป็นเกมส์สำหรับวัยรุ่น นั้นอยู่ที่ไหน หรือต้องการที่จะเน้นการตลาดเจาะกลุ่มวัยรุ่นอย่างเดียว  โดยปราศจากจิตสำนึกสาธารณะ และศีลธรรมบ้าง
          ปัญหาวัยรุ่นติด อินเตอร์เน็ต มากเกินไป  โดยเฉพาะ การติดต่อสื่อสารผ่าน ช่องทางสังคมในอินเตอร์เน็ต   (social  network) หรือ การคุยกัน ที่เรียกว่า   แชท ( chat ) ความจริงแล้วการติดต่อสื่อสารแบบนี้มีประโยชน์มาก ถ้ารู้ จัก   กาลเทศะ  หรือ กาลเวลาที่เหมาะสม โดยไม่ลืมไปว่าในสังคมแห่งความเป็นจริงนั้นการติดต่อสื่อสารที่นับว่าปลอดภัยที่สุดคือ การที่คนเราต้องเห็นหน้า รู้จักกันพอสมควรก่อนที่จะเชื่อใจกัน  แต่ปัญหาที่พบสำหรับวัยรุ่นที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือ  การขาดวิจารณญาณ ในการติดต่อสื่อสารในโลก ไร้พรมแดน จะเห็นได้จาก วัยรุ่น รู้จัก กันทางอินเตอร์เน็ตแล้ว เชื่อทันที โดยที่พ่อแม่ไม่รู้ไม่เห็น จึงเกิดการติดต่อสื่อสารกันและ บางกรณีมีการล่อลวงกัน หรือหลอกลวงกัน เกิดธุรกรรมที่ผิดกฎหมายเกิดขึ้นในอินเตอร์เน็ตเพราะ ในโลกไร้พรมแดนนั้นเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า ใครเป็นใคร หรือเป็นคนดีหรือเลว  ทำให้วัยรุ่นส่วนใหญ่ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา  ลืมกิจกรรมในโลกแห่งความเป็นจริงกับครอบครัว  เช่นคุยกับพ่อแม่ ญาติพี่น้องน้อยลง   เกิดปฏิสัมพันธ์กันในครอบครัวน้อยลงกว่าเดิม  เชื่อคนในอินเตอร์เน็ตมากกว่าพ่อแม่  เพราะ ไปให้ความสำคัญกับกิจกรรมประเภทนี้มากเกินไป  วัยรุ่นหมดเวลาไปกับการเล่นอินเตอร์เน็ต จนทำให้เกิด การเสียเวลา และเสีย เงินไปโดยใช่เหตุ
          ปัญหาที่พบอีกอย่างหนึ่งคือ วัยรุ่นในยุคนี้บางครั้งขาดความอดทนและขาดการแสวงหาความรู้  เพราะมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยมาก จนไม่อยากอ่านหนังสือ  เพราะ  คลิก เอา เร็วกว่า หมายความว่า ค้นหาในอินเตอร์เน็ตเร็วกว่า  ห้องสมุดอาจจะเป็นแค่ ที่เก็บหนังสือเก่าๆอย่างเดียว  เพราะ วัยรุ่นส่วนใหญ่จะ มี คอมพิวเตอร์ชนิดพกพา หรือ โน้ตบุ๊ก เมื่อจะต้องคนคว้าและเขียนรายงาน  หรือหาความรู้ที่ต้องอาศัยความอดทนและความพยายาม แล้ว มักไม่ค่อยอดทน หรือชอบค้นคว้าในห้องสมุด   เพราะ ไปหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต  เกิดการคัดลอก โดยไม่บอกว่าเอามาจากไหน เพราะหาข้อมูล  มาอย่างรวดเร็ว จนไม่ได้ใช้ความคิดตัวเอง  จึงทำให้เกิดปัญหาเด็กเขียนเรียงความภาษาไทยไม่เป็น  เขียนภาษาไทยไม่ได แม้จะอยู่ระดับพออ่านออกเขียนได้ กลับเขียนภาษาไทยง่ายๆไม่ถูก  เมื่อเทียบกับสมัยก่อนที่ เด็กจะเข้าห้องสมุด  จดข้อมูลและค้นคว้าตามห้องสมุดทำให้เด็กสมัยก่อนเขียนภาษาไทยได้คล่องกว่าวัยรุ่นสมัยนี้  อุปกรณ์การเรียนก็ทันสมัย  ไม่ต้องต้องจดใส่สมุดก็มีข้อมูลได้อย่างมากมาย   เพียงแค่มีเครื่องมือเก็บข้อมูล อันทันสมัย ที่เรียกว่า HANDY DRIVE ก็สามารถเขียนรายงานได้แล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น